

Infinix Infinix Note 50S อยู่ในอันดับที่ #494 ของโลก ในหมู่โทรศัพท์ โดยมี LibraScore เท่ากับ 60 ผลิตภัณฑ์นี้โดดเด่นที่สุดในด้าน #203-จัดอันดับ แบตเตอรี่ เมื่อเทียบกับ 800 โทรศัพท์ ลองพิจารณา Oppo Reno12 F หรือ Honor Magic7 Lite ซึ่งให้คะแนนที่สูงกว่าภายใต้งบประมาณใกล้เคียงกัน
Infinix Note 50S มาพร้อมดีไซน์ที่บางเฉียบและดูพรีเมียม ด้วยความบางเพียง 7.6 มม. และน้ำหนักเบาเพียง 180 กรัม โครงสร้างผลิตจากอลูมิเนียมอัลลอยด์และกระจกเสริมความแข็งแรงเพื่อความทนทาน ได้รับการรับรองมาตรฐาน IP64 ช่วยป้องกันฝุ่นและน้ำ และ Corning Gorilla Glass 5 ช่วยปกป้องหน้าจอขอบโค้ง จุดเด่นด้านดีไซน์คือแผงด้านหลังที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ มอบประสบการณ์สัมผัสที่แปลกใหม่ พร้อมไฟแจ้งเตือน RGB ที่ปรับแต่งได้เพื่อเพิ่มความโดดเด่นเฉพาะตัว กระจกโค้ง 2.5D และหน้าจอขอบคู่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการจับถือและประสบการณ์การรับชมที่สมจริง ผสมผสานความสวยงามสมัยใหม่เข้ากับความทนทานสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ลองค้นพบพลังของ Oppo Reno12 Pro ที่มาพร้อมนวัตกรรมล่าสุดใน การออกแบบ
Infinix Note 50S มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,500 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 100W (45W ตามข้อมูลจากแหล่งที่มาซึ่งมีความคลาดเคลื่อน) ให้พลังงานใช้งานได้ตลอดวันสำหรับการใช้งานหนัก เทคโนโลยีการชาร์จแบบบายพาสช่วยลดความร้อนระหว่างการเล่นเกมเป็นเวลานาน ช่วยให้มั่นใจได้ถึงความเสถียร การชาร์จเต็มใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง และการชาร์จแบบย้อนกลับผ่านสายเคเบิลช่วยให้สามารถแบ่งปันพลังงานฉุกเฉินให้กับอุปกรณ์ที่รองรับได้ แม้ว่าจะไม่มีแบตเตอรี่แบบถอดได้ แต่การออกแบบที่ไม่สามารถถอดออกได้ให้ความสำคัญกับความเรียบหรูและความทนทานต่อน้ำ/ฝุ่น (ระดับ IP64) ไม่ว่าจะเป็นการสตรีมมิ่ง การทำงานหลายอย่างพร้อมกัน หรือการเล่นเกม แบตเตอรี่ก็สามารถรักษาสมรรถนะได้โดยไม่ต้องชาร์จบ่อยครั้ง ทำให้เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพและความบันเทิงอย่างต่อเนื่อง คุณอาจชอบ Infinix GT 30 Pro ซึ่งออกแบบด้วย แบตเตอรี่ ที่อัปเกรดแล้วเพื่อประสบการณ์ที่ดีกว่า
Infinix Note 50S มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.8 นิ้ว มอบภาพที่สดใสสมจริง และอัตราการรีเฟรช 144Hz เพื่อการเลื่อนและเล่นเกมที่ลื่นไหล หน้าจอมีความสว่างสูงสุด 1300 nits ช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนแม้ในแสงแดดโดยตรง และ Corning Gorilla Glass 5 ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนและแรงกระแทก การออกแบบกระจกโค้ง 2.5D และขอบคู่สร้างรูปลักษณ์ที่สมจริงไร้ขอบ พร้อมการรับรอง TÜV Rheinland Eye Comfort เพื่อลดอาการเมื่อยล้าเมื่อใช้งานเป็นเวลานาน ด้วยแผงสี 10 บิตและช่วงสี DCI-P3 หน้าจอจะส่งมอบสีสันที่สมบูรณ์และแม่นยำสำหรับสื่อและภาพถ่าย ที่ความละเอียด 392 PPI รายละเอียดจะยังคงคมชัด และรอยบากแบบเจาะรูช่วยรักษาสุนทรียศาสตร์แบบเต็มหน้าจอ ผสมผสานสไตล์และฟังก์ชันการทำงานได้อย่างลงตัว หากคุณต้องการ หน้าจอ ที่ดีกว่า ZTE AXON 50 5G อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
Infinix Note 50S มาพร้อมระบบกล้องคู่ โดยมีเซ็นเซอร์หลักความละเอียด 64MP และเซ็นเซอร์วัดความลึก 2MP ให้ภาพที่คมชัดและมีรายละเอียดในสภาพแสงที่ดี เซ็นเซอร์ Sony IMX682 ผสานกับระบบออโต้โฟกัสแบบตรวจจับเฟส ช่วยให้ได้ภาพที่ใสและมีสีสันสดใส ในขณะที่เซ็นเซอร์วัดความลึกช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโหมดภาพบุคคลด้วยเอฟเฟกต์โบเก้ที่นุ่มนวล สำหรับการถ่ายวิดีโอ รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K ที่ 30fps เพื่อเก็บภาพที่สมจริงพร้อมช่วงไดนามิกที่แม่นยำ กล้องหน้าความละเอียด 13MP สร้างความประหลาดใจด้วยความสามารถในการบันทึกวิดีโอ 4K ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากในอุปกรณ์ราคาประหยัด ทำให้เหมาะสำหรับการถ่ายเซลฟี่และวิดีโอบล็อกคุณภาพสูง ฟีเจอร์ซอฟต์แวร์อย่าง HDR, geotagging และการถ่ายวิดีโอสโลว์โมชั่นที่ 120fps เพิ่มความหลากหลายในการใช้งาน อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพในสภาพแสงน้อยยังคงเป็นข้อจำกัด โดยรายละเอียดและความแม่นยำของสีจะลดลงในสภาพแวดล้อมที่แสงน้อย โดยรวมแล้ว ชุดกล้องนี้สมดุลระหว่างฟังก์ชันการทำงานและความคิดสร้างสรรค์สำหรับการถ่ายภาพในชีวิตประจำวันและการใช้งานบนโซเชียลมีเดีย อีกทางเลือกหนึ่งที่ดีกว่าอาจเป็น Sharp Aquos R8 Pro ซึ่งมี กล้อง ระดับใหม่
Infinix Note 50S เป็นสมาร์ทโฟนที่สมดุลระหว่างสเปคระดับพรีเมียมและราคาที่เข้าถึงง่าย มาพร้อมหน้าจอที่สดใส กล้อง 64MP ระบบชาร์จเร็ว 100W และดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร เช่น แผงด้านหลังที่มีกลิ่นหอมและไฟ RGB มอบความคุ้มค่าที่ยอดเยี่ยมโดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพหรือสไตล์
Infinix Note 50S มอบประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งด้วยชิป MediaTek Dimensity 7300 และ RAM 8GB ช่วยให้การทำงานหลายอย่างพร้อมกัน การเล่นเกม และการใช้งานสื่อต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น คะแนน Antutu ที่ 685,000 เน้นย้ำถึงประสิทธิภาพที่เหนือกว่าอุปกรณ์ 78% แม้ว่าการชาร์จเร็ว 100W จะช่วยให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็ว แต่การขาดระบบระบายความร้อนเฉพาะอาจจำกัดการใช้งานหนักต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สเปคที่สมดุล หน้าจอ 144Hz และกล้อง 64MP ทำให้เป็นตัวเลือกที่หลากหลายในระดับกลางสำหรับผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับความเร็ว การตอบสนอง และความสามารถด้านมัลติมีเดียโดยไม่ลดทอนคุณสมบัติที่จำเป็น หากคุณต้องการ ประสิทธิภาพ ที่ดีกว่า realme 14 Pro+ อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
1. จอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.8 นิ้วที่สดใส พร้อมอัตราการรีเฟรช 144Hz และความสว่างสูงสุด 1300 nits เพื่อภาพที่สมจริง
2. แบตเตอรี่ 5500 mAh พร้อมการชาร์จเร็ว 100W (พบข้อขัดแย้งในแหล่งข้อมูล) เพื่อการชาร์จที่รวดเร็วและใช้งานได้ตลอดวัน
3. แผงด้านหลังที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและไฟแจ้งเตือน RGB ที่ปรับแต่งได้เพื่อการออกแบบที่โดดเด่นและการปรับแต่งส่วนบุคคล
4. กล้องหลัก 64MP รองรับวิดีโอ 4K และการถ่ายสโลว์โมชั่นที่ 120fps เพื่อการถ่ายภาพที่หลากหลาย
5. ประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งจาก MediaTek Dimensity 7300 และ RAM 8GB รองรับการทำงานหลายอย่างพร้อมกันและการเล่นเกมได้อย่างราบรื่น
1. กล้องถ่ายภาพได้ไม่ดีในสภาพแสงน้อย รายละเอียดและความแม่นยำของสีลดลง
2. การขาดระบบระบายความร้อนโดยเฉพาะอาจจำกัดการใช้งานหนักหรือการเล่นเกมที่ต่อเนื่อง
3. ไม่มีช่องเสียบหูฟังและขาดเซ็นเซอร์ (เช่น บาโรมิเตอร์, LiDAR) สำหรับฟังก์ชันขั้นสูง
4. ความไม่สอดคล้องกันในข้อมูลจำเพาะของการชาร์จเร็ว (100W เทียบกับ 45W ที่ระบุในข้อความต้นฉบับ) อาจทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือ
ดูว่ารายการนี้เปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ อย่างไร
เลือกรายการที่แตกต่างกันสองรายการเพื่อดูการเปรียบเทียบรายละเอียดของสเปค ประสิทธิภาพ และคุณสมบัติ