มีโทรولا โมโต อี13 - โทรศัพท์ที่มีราคาไม่แพงในตลาดที่มียอดขายหลากหลายยี่ห้ออยู่ โดยโมโทรอลาได้ทำผลิตภัณฑ์ที่ดีทั้งหมด แต่สินค้า E13 นี้ทำให้เกิดคำถามว่ามันเป็นสิ่งที่น่าสนใจหรือไม่ ซึ่งมีราคา 149 เหรียญสหรัฐฯ นี่คือโทรศัพท์ที่ควรจะมีคุณสมบัติที่มีความหมาย แต่ฉันไม่ได้มั่นใจที่จะเชื่อว่ามันมีอยู่จริง โดยใช้หน้าจอ 6.5 อิ้วในความละเอียด 720p และการทำความสะอาด IP52 และกล้องดิจิตอลแบบดับเบิล คุณสมบัติ E13 นี้ทำให้ดูเหมือนเป็นการยอมรับอย่างสุภาพ แทนที่จะเป็นโทรศัพท์ที่มีคุณลักษณะและคุณสมบัติที่โดดเด่น
ม็อโทรอล่า มอโต อี13 เป็นหน้าจอกลางค่าสุดจากบริษัทของเรา แม้จะนับเป็นที่ประทับใจได้ว่า ม็อโทรอล่า สามารถผลิตสมาร์ทโฟนค่าใช้จ่ายไม่แพงได้มากเท่านั้น แต่คำถามก็คือว่ามอโต อี13 เหมือนกับมอโต อี12 หรือมอโต คอมมอนดี 12 มากแค่ไหนเมื่อเป็นการตรวจสอบที่ใกล้ขึ้น ฉันพบว่าตัวเองต้องสงสัยว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ใช้สิทธิ์ได้ดีขึ้นหรือไม่ ในด้านการออกแบบ ม็อโทรอล่า มอโต อี13 เป็นเรื่องง่ายๆ ไม่มีปัญหาใดๆ 6.5 นิ้วของหน้าจอกแสดงผลในความละเอียด 720p ได้ทำได้ดีเลย นอกจากนี้ยังมีควบคุมอยู่ที่ด้านข้าง มีเสียงเล่นและปุ่มเปิด-ปิดอยู่ที่ด้านข้าง และยังสามารถใส่หูฟังทั้งขนาด 3.5 มิลลิเมตรได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ฉันพึงพอใจมาก น่าแปลกที่ไม่มีระบบการรับรู้ชีวิตเลย ไม่มีปุ่มดอทสแกนอยู่บนหน้าจอหรือปุ่มเปิด-ปิด และยังอยู่บนโลโก้ของ ม็อโทรอล่า ที่ด้านหลังด้วย สแกนใบหน้ายังมีอยู่แต่เป็นรูปแบบชัดๆ เพียงแต่ไม่มีการรับรู้ชีวิตที่มั่นคงเลย นอกจากนี้ยังมี IP52 ให้แสดงถึงการออกแบบที่สามารถหยุดกองทุนได้อย่างดี ซึ่งเป็นที่ดีที่ฉันพึงพอใจมากสำหรับสมาร์ทโฟนค่าใช้จ่ายไม่แพงหลายตัวของ ม็อโทรอล่า นอกจากนี้ยังมีปุ่มกล้องอยู่ 13 ล้านพิกเซลอยู่ที่ด้านหลังและ 5 ล้านพิกเซลอยู่ที่หน้าจอให้สามารถแสดงผลได้ดีเลย แต่ปัญหาของฉันคือการนำภาพออกมาอย่างช้าๆ ทำให้ไม่สามารถนำภาพของวัตถุในการเคลื่อนไหวมาออกมาได้อย่างรวดเร็วเลย นี่เป็นข้อเสียที่สำคัญสำหรับคนซื้อสมาร์ทโฟนเพื่อให้มีความสามารถในการทำงานที่ดีเลย คุณภาพของการผลิตของ ม็อโทรอล่า มอโต อี13 แสดงให้เห็นว่าเป็นที่ดีเลย ไม่มีปัญหาใดๆ แต่ไม่สามารถทำให้ฉันพึงพอใจได้เลย หากคุณกำลังมองหาสมาร์ทโฟนค่าใช้จ่ายไม่แพงๆ ฉันยังมีทั้งหมดที่สามารถนำเสนอได้ดีกว่านี้
แบตเตอรี่ของ โมโต E13 คือผลลัพธ์ผสมกัน เมื่อพิจารณาจากความแรง 5,000mAh นั้นดูแข็งแกร่งสำหรับโทรศัพท์ที่ราคาไม่สูง แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบอย่างใกล้ชิด นั่นอาจจะไม่เป็นไปตามความคาดหวังได้ ในขณะที่สมาร์ทโฟนทางโลกปกติเก็บแบตเตอรี 5,000mAh อยู่แล้ว โมโต E13 ที่ใช้สเปคต่ำและหน้าจอทำให้การทำงานของแบตเตอรีนั้นไม่ได้อย่างที่ควรจะเป็น การทดสอบของฉันพบว่าเวลาเล่นวิดีโอ YouTube มีความคม 720p ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะทำให้แบตเตอรี่ลดลง 6% ซึ่งเป็นการแสดงผลที่จะคาดหวังได้นั่นแหละสำหรับโทรศัพท์ที่มีสเปคไม่สูงเช่นนี้ นี่อาจบอกได้ว่าแอปพลิเคชัน Unisoc T606 ไม่ได้ทำอะไรเลยเพื่อการปรับปรุงแบตเตอรี่ ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพของมันที่น้อยลงในด้านนี้ ทุกสิ่งที่ควรทราบคือผู้ซื้อจากประเทศออสเตรเลียควรรู้ว่า โมโต E13 ที่ขายผ่าน Telstra และ Optus มีเครื่องชาร์จอยู่แล้ว แต่สำหรับโมเดลที่ขายปลีกจะไม่มี นอกจากนี้การชาร์จแบตเตอรีนั้นถูกจำกัดไว้ที่ 10 วัตต์ ไม่มีการชาร์จไร้สายทั้งใดเลย ผลรวมแล้วแบตเตอรี่ของ โมโต E13 นั้นดีพอ แต่ไม่ดีเท่าที่ควร นับจากความแรงของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีปัจจัยอื่นๆ ที่จะทำให้ประสิทธิภาพของมันอาจจะมากขึ้น แต่มันก็เป็นโทรศัพท์ที่ยังไม่สามารถใช้งานได้ทุกที่แล้วด้วย
หน้าจอ Motorola Moto E13 คือ 6.5 นิ้ว 720p ซึ่ง ในช่วงราคานี้ ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ แต่ก็เป็นการพยายามที่ดี นอกจากนั้น หน้าจอยังทำงานได้ดีพอสมควร เมื่อพิจารณาจากความเข้าใจในฐานะโทรศัพท์แบบเบาๆ ไม่ใช่ระดับสูงเลย แต่สำหรับ e13 ที่มีราคาเพียง 149 ดอลลาร์ คุณไม่ควรจะคาดหวังว่าจะมีอะไรพิเศษมาก หน่วยความละเอียด 720p อาจจะมองด้วยตาตัวเองในฐานะสิ่งเก่าไปแล้วในตอนนี้ของสภาพแวดล้อมสมาร์ทโฟนที่เรียกว่า today แต่ก็ยังมีประสิทธิภาพในการทำงาน หน้าจอของมันจะชัดเจนและสว่างพอที่จะดูวิดีโอหรือเพลงได้ด้วย และไม่มีอะไรที่จะทำให้ความเป็นอยู่ทางสุขภาพของมันดีขึ้นเลย แต่การออกแบบแบบไม่มีอะไรหนักแน่นเลยของโทรศัพท์ ทำให้มีทั้งปุ่มเสียงและปุ่มเปิดปิดได้เพียงพอเท่านั้น ซึ่งทำให้งานที่ต้องทำแล้วก็เสร็จสิ้นไปได้เลย อย่างไรก็ตาม การขาดหายไปจากรายชื่อแบบอย่างของ Moto E13 นั่นคือการระบายผู้ใช้โดยไม่ใช้ระบบ biometric ที่แท้จริงเลย ไม่มีเลนส์ผลลัพธ์ในหน้าจอเลย, และไม่มีปุ่มตรวจสอบพิมพ์นิ้วเลยด้วยกัน จึงไม่สามารถตรวจสอบว่าปู่นิ้วมีพิมพ์บนโทรศัพท์ได้เลย นั่นคือการระบายโดยผ่านใบหน้าคือเท่านั้นที่คุณสามารถทำได้ และมันติดลบในเรื่องความปลอดภัยเลย เพราะไม่ใช่ระบบที่ปลอดภัยเลย ดังที่ตัวอย่าง IP52 ยกย่องว่าสามารถดูดซับฝนตกเป็นปรากฏการณ์ได้ แต่โทรศัพท์ของ Moto E13 ไม่สามารถมีน้ำเข้าได้เลย และหน้าจอจะเพียงพอที่จะใช้งานโดยปกติทุกวัน และไม่ต้องคาดหวังว่ามันจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในแง่ของสภาพร่างกายหรือประสิทธิภาพเลย ทั้งหมดแล้ว หน้าจอของ Motorola Moto E13 ก็เป็นการพยายามที่ดีสำหรับโทรศัพท์แบบเบาๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้มันเป็นที่โดดเด่นเลย
ส๗ม ดี ป้า ต็ เทย น์อใข แม บ้ 149, จี ต็ด ่ั คห ท เลม๘์ 13 บ้ร นด ขภ ต็ปยถ เลม๘์อ์ นแ คต้ดข ปักม ภลุ บลอง 6.5ค ต้ 720p ดี นทยับ กหรม. ภต ฐ฿ 6.ด นทยับ เห ธี มศดต้ ขภ นท ณบ 6.ด 3ำ.
มือถือ Motorola Moto E13 คือโทรศัพท์มือที่สองราคาไม่แพงจากแบรนด์นี้ แต่ด้วยความหลากหลายในตลาดสิ่งนี้ ทำให้ยากที่จะโดดเด่น นอกจากการไม่มีค่าใช้จ่ายมากแล้ว ผลลัพธ์ของมันอยู่ต่ำกว่าที่คาดหวัง โทรศัพท์ถูกขับเคลื่อนด้วย Unisoc T606 processor คู่กับ 2GB of RAM ซึ่งเป็นความจุภายนอกที่ลดลง เนื่องจากสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ในยุคปัจจุบันมักจะมีเซ็นต์รุ่นแรงและความจุราแมกซ์มากกว่า ผลที่ได้คือประสบการณ์ที่ช้ามากที่สุดในใช้งานประจำวัน การเปิดตัวแอปต่างๆ คือเวลานาน และงานทั่วไปสามารถช้าลงได้ นอกจากนี้ยังมีผลการสอบ Geekbench ที่น่าผิดหวังเช่นกัน ซึ่งโทรศัพท์ไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีได้ และการทดสอบ 3DMark ยังแสดงว่าความสามารถของมันมีด้อยที่สุด ทำให้ตั้งเป้าไว้เป็นกลุ่มผู้เล่นเกม ไม่ใช่โทรศัพท์มือสอง ส่วน Android Go พัฒนาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพบนอุปกรณ์เริ่มต้น มีแจ้งเตือนอย่างชัดเจนว่า Motorola Moto E13 กำลังผลิตสิ้นจุด ความไม่สามารถที่จะรับหน้าที่ทำกิจกรรมที่ยากหมายความว่าชีวิตของแบตเตอรี่จะไม่ประหยัดเท่าที่คาดหวังจากแบตเตอรี่ 5,000 mAh ในการทดสอบ เราจะพบว่าใน 1 ชั่วโมง YouTube เพลิดเพลินอยู่ที่ 720p ใช้พลังงานมากเกินไป 6% ของแบตเตอรี่ นับเป็นการใช้งานที่ไม่เลว แต่เป็นความคาดหวังที่น้อยกว่าที่คาดไว้ ทั้งเรื่องของการเติมพลังจากแบตเตอรี่ยังมีความสูญเสีย แม้จะรองรับ 10W การขึ้นอยู่ด้วยความจริงในการทำเช่นนี้ ยังไม่รวดเร็ว เมื่อเทียบกับโทรศัพท์ที่มีอายุน้อยกว่าที่สามารถชาร์จได้รวดเร็วกว่าและใช้พลังงานได้ดีขึ้น ในทั้งหมด แม้ว่ามือถือ Motorola Moto E13 จะไม่ใช่โทรศัพท์มือสองเลว แต่ความไม่มีประสิทธิภาพของมันทำให้ยากที่จะแนะนำด้วยความยินดี ผู้ที่กำลังมองหาตัวเลือกมือสองที่เชื่อถือได้ต้องการพิจารณาเป็นอีกทางเลือกจาก Nokia หรือแบรนด์อื่นๆ ที่ให้ผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจในราคาที่คล้ายกัน