มีโทรโอล่า โมโต จี เพลาย ถือเป็นสัญลักษณ์ของสมาร์ทโฟนหลักๆ ที่มีคุณภาพสูงในการใช้งานโดยไม่ทำให้ราคาสูงทุกประการ มีราคาอยู่ที่ 170 เหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นราคาที่เหมาะสมมาก แต่มันจะสามารถทำอะไรได้จริงบ้าง? ด้วยรูปทรงเวลานี้และประสิทธิภาพที่ดี รวมไปถึงแบตเตอรี่ที่มีความจุ 5,000 มิลลิแอมแปร์และโปรเซสเซอร์ Qualcomm Snapdragon 460 โมโต จี เพลายได้พยายามเป็นอย่างมาก แต่แล้วจะสามารถใช้งานได้อย่างไรในความเป็นจริง
ม็อดโตรอล่า ม็อโต จี เพลาย (2021) มีความเป็นทางการของการออกแบบที่แท้จริง โดยแยกออกจากกันจากก่อนหน้าของเธอ เข้าไปในไม้ตัดปากสำหรับกล้องด้านหน้า สิ้นสุดลงแล้ว ด้วยช่องเล็กๆ ที่มีลักษณะคล้ายกะจัง จากนั้นเข็มรุ่นก็ยังมีผลลัพธ์ที่ถูกต้องและรวดเร็วอยู่ที่ขอบด้านหลัง คุณภาพของการออกแบบของอุปกรณ์นี้ทำจากพลาสติกเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่รู้สึกเหมือนมีค่าหรือหย่อนคล้อยเมื่อต้องการกุมไว้ ดังนั้นแม้ว่าจะไม่มีลักษณะที่ดีและพรีเมียมเหมือนแก้วหรือโลหะ โครงสร้างหลังของพลาสติกสามารถให้ประโยชน์ได้ในเรื่องของความยืดหยุ่น การออกแบบม็อโต จี เพลายเป็นเครื่องมือที่สะอาดและขั้นต่ำ โดยมีช่องเล็กๆ ที่ด้านล่างของรูปปั้นที่หน้า ด้านรอบขอบคุณที่จะพบ USB-C Port volume rocker และปุ่ม Power อย่างน่าทราบ ขึ้นไปบนอุปกรณ์มีหัวกับเครื่องฟัง ซึ่งเป็นการต้อนรับสิ่งที่ดีกันที่ราคานี้ แม้ว่าจะไม่จำเป็นต้องทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนหรือตอกย้ำที่ว่า ม็อโต จี เพลายมีความออกแบบที่ไม่ได้เป็นทางการ ในความเป็นจริงแล้ว คุณภาพของการออกแบบและรูปร่างของม็อโต จี เพลายไม่มีลักษณะเฉพาะใดๆ รู้สึกเหมือนกับเครื่องมือที่แข็งแกร่ง ไม่เล็กน้อยที่จะทำให้พวกคุณผ่านงานประจำวันของคุณโดยไม่มีปัญหา ในเรื่องของความสวยงาม ม็อโต จี เพลายจะไม่ได้รับรางวัลในการออกแบบ แต่อย่างไรก็ตามในเรื่องของโทรศัพท์ง่ายๆ ที่มีราคาถูก นี่คืออะไรที่เราอาจจะไม่สามารถตั้งใจให้มากนัก คำถามหลักก็คืออุปกรณ์นี้สามารถทำได้ดีหรือไม่ในเรื่องของประสิทธิภาพและพลังงานทดแทน ในการวิจารณ์ของเรา เราจะมีการศึกษาด้วยความใกล้ชิดมากกว่านั้นในเรื่องเหล่านี้ แต่สำหรับตอนนี้ ให้ปล่อยให้ม็อโต จี เพลายทำได้ดีก่อน: การเป็นโทรศัพท์ที่เชื่อถือได้และไม่มีลักษณะเฉพาะ โดยไม่บานปลายส่งผลกระทบต่อกระเป๋า
มอเตอร์ โอล่า (Motorola) มอโต จี เพล (Moto G Play) นี่เป็นโทรศัพท์ระดับเริ่มต้นที่มีค่าใช้จ่าย 170 ดอลลารสหรัฐฯ ซึ่งให้คุณค่าที่น่าประทับใจสำหรับราคานี้ หากตอนนี้คุณอาจจะหวังว่าจะได้โทรศัพท์ที่เพียงพอที่จะมีประสิทธิภาพ แต่แมโอตีจี เพล (Moto G Play) นั้นยิ้มแย้มให้เห็นด้วยตัวออกแบบที่สมัยใหม่ และสามารถทำงานได้ดี ที่นี่อาจจะไม่ใช่โทรศัพท์ที่ทรงพลังที่สุดในตลาด แต่มอโต จี เพล (Moto G Play) ยังคงนำไปใช้งานกับงานประจำวันอย่างดี โมดูโล (Qualcomm Snapdragon 460) ตัวประมวลผลที่ได้มา และ 3 กิโลไบต์ของ RAM และ 32 ไกแลตของสเปคสโเรจ (storage) นั้นเพียงพอต่อการทำงานพื้นฐานอย่างโซเชียลมีเดีย, มาเอสซิ่ง (messaging), และฟังเพลงผ่านการเชื่อมต่องานอินเทอร์เน็ต (streaming music) อย่างไรก็ตาม หากคุณวางแผนที่จะใช้โทรศัพท์ของคุณสำหรับการเล่นเกมบนมือถือหรือแอปพลิเคชันสูง คุณอาจจะประสบปัญหาในการทำงานได้อย่างรวดเร็ว แมโอตีจี เพล (Moto G Play) นั้นมีความสามารถที่ดีในแง่ของความยาวของแบตเตอรี่ โดยมีตัวแบตเตอรี่ขนาด 5,000 มิลลิแอมป์ นี่ทำให้โทรศัพท์ของคุณใช้งานได้นานถึง 2 วัน และไม่ต้องวิตกกังวลในการชาร์จสิ้นพลังของโทรศัพท์ทุกวัน ในการทดสอบแบตเตอรี่ แมโอตีจี เพล (Moto G Play) ได้คะแนน 77% ของความยาวของแบตเตอรี่หลังจากการใช้งานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ชั่วโมงบน Youtube ที่มีความสว่างเต็มที่ คメラ (camera) ของแมโอตีจี เพล (Moto G Play) นั้นเป็นค่าใช้จ่ายของโทรศัพท์ระดับเริ่มต้น ซึ่งมีคุณภาพดีอยู่ในเวลาที่มีความสว่างและไม่มีปัญหาในการทำงานอย่างช้าๆ ในช่วงเวลาที่ไม่มีความสว่างมากนัก อย่างไรก็ตาม หากคุณวางแผนจะซื้อโทรศัพท์ที่มีราคานี้ (170 ดอลลารสหรัฐฯ) นี่เป็นเรื่องที่จะยอมรับได้ ระยะทั้งหมด แมโอตีจี เพล (Moto G Play) ให้คุณค่าอย่างมากสำหรับราคาของสิ่งเหล่านี้ หากคุณกำลังมองหาการซื้อโทรศัพท์ที่ไม่ทำให้คุณใช้จ่ายเกินไป และมีคุณภาพพอที่จะให้ผลงานประจำวัน แมโอตีจี เพล (Moto G Play) นั้นคือโทรศัพท์ที่นี่คุณอยากจะหาคำตอบ
ม็อทโกล โมโต G Play (2021) คือ โทรศัพท์budget-friendly ที่สามารถตอบสนองได้ดีเท่าที่ควรสำหรับเงินราคารวมๆ แต่จำเป็นต้องตั้งค่าความคาดหวังให้สมเหตุสมผล เนื่องจากชุด spes ของอุปกรณ์นี้มุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้ทั่วไปมากกว่าการใช้งานแรงกดดัน โดยใต้ขอบคุณ คุณจะพบ Qualcomm Snapdragon 460 โปรเซสเซอร์ สอดคล้องกับ RAM 3 GB และ 32 GB ตัวจัดเก็บข้อมูล ด้วยความตั้งค่าเหล่านี้ ควรเพียงพอต่อการปฏิบัติงานที่พื้นฐาน เช่น การดูท่องเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และการสตรีมเพลง แต่จะเริ่มตั้งแต่จุดนี้แสดงข้อจำกัดของเมื่อมีการดำเนินการต้องการมากกว่า เช่นเกมส์หรือการทำงานทั่วไป ในการทดสอบของผม โมโต G Play จัดการได้ไม่ดีในการตั้งค่าการดำเนินการอย่างกราฟฟิกที่อุดมสมบูรณ์อย่าง Call of Duty Mobile และบ่อยครั้งจะมีการว่าย, หยุดชะงัก หรือสูญเสียจังหวะ ด้วยโหมด 4-series โปรเซสเซอร์คือการก้าวไกลลงอย่างมากจากชิปของ series 6 ที่มีอยู่ในอุปกรณ์ทั่วไปของโมโต G ซึ่งเป็นเหตุผลที่จะทำให้สามารถสังเกตได้ว่าความแตกต่างในการปฏิบัติงาน ด้วยผลลัพธ์ของการทดสอบ Benchmark เพิ่มเติมระบุถึงจุดนี้ โดยให้คะแนน 255 ในการทดสอบของ Geekbench 5 คอร์เดียว และ 1254 เมื่อเป็นการทดสอบคอร์ที่มีหลายคอร์ แต่คะแนนเหล่านั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าของผู้ใหญ่ที่สามารถรับมันได้ที่ชีวิตประจำวันของโมโต G ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคืออุปกรณ์ต่ำสุด อย่างไรก็ตาม หากคุณกำลังมองหาสายที่จัดการได้ดีในการดำเนินการต้องการมากๆ หรือการทำงานหลายอย่าง โมโต G Play ไม่ใช่เลือกที่ดีที่สุดเลย อย่างไรก็ตาม หากคุณให้ความสำคัญกับปัจจัยต้นทุนและพร้อมที่จะลดความสามารถในการรับมันได้ โมโต G Play ยังคงมีประสบการณ์ที่ยอมรับความจึงเป็นอีกทางเลือกที่ดีในหมวด budget ส่วนตัวของเราจะคงไว้
1. มีออกแบบที่ไม่เลวยิ่งกว่าในตอนนี้ และมี fingerprint sensor ที่ด้านหลัง
2. มีแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานสูง สามารถใช้งานได้นานขึ้นอีก 1 วันเลย
3. สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 2 วันเลยแม้ในกรณีที่ใช้งานอย่างหนัก
4. มีการทำงานของกล้องที่ดีในความสว่างจากธรรมชาติ และสามารถถ่ายรูปได้ดี
5. มีความสะอาดและง่ายต่อการใช้งาน โดยใช้ Motorola's My UX ซึ่งเป็น Android 10 ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก
6. มีราคาอยู่ในเกณฑ์ที่ดีสำหรับคนหลายคน และสามารถซื้อได้ในราคา $170 เท่านั้น
7. การชาร์จไร้สายอาจจะดีกว่า แต่เนื่องจากจุดประสงค์ คือราคาที่ต่ำแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็น
1. มีหน้าจอเทียบกับระดับความสามารถที่ถูกออกแบบมาอย่างดี ซึ่งอาจจะทำให้ไม่สวยและไม่มีสีสัน
2. ไม่สามารถใช้งานได้ดีเพราะความสามารถในการทำงานที่ต่ำ ทำให้เกิดการหยุดชะงักในระบบและเวลาที่นานขึ้นสำหรับการเรียกใช้เกมบนมือถือ
3. ผลลัพธ์ของการทดสอบแสดงว่าประสิทธิภาพของอุปกรณ์นี้ต่ำกว่าอีกหลายอุปกรณ์ใน Motorola G series เลย
4. กล้องไม่สามารถทำงานได้ดีในความสว่างที่เล็กๆ น้อยๆ ทำให้ไม่ไหวและไม่มีความละเอียด
5. กล้องหน้าไม่สามารถทำงานได้ดีในแสงสว่างที่เล็กๆ น้อยๆ ทำให้ยากในการถ่ายรูปได้ชัดเจน
6. มีการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่จำกัด โดยจะมีอัปเดตเพียง 1 เวอร์ชันสำหรับ Android 11 เท่านั้น และจะมีความปลอดภัย 2 ปีเท่านั้น
7. ไม่มีลำแสง telephoto หรือ ultrawide ในกล้องเลย ซึ่งอาจจะไม่ดีกว่าในบางกรณี